บทความ

เครื่องทำน้ำแข็ง alpine

เครื่องทำน้ำแข็ง ALPINE ดีอย่างไร

การเปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟในปัจจุบัน ถือว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก สำหรับคนเริ่มทำธุรกิจอะไรซักอย่าง การจะเริ่มต้นทำธุรกิจร้านอาหารนั้น สิ่งที่มีความสำคัญแรกๆเลยนั้นคือ การควบคุมต้นทุนในเรื่องวัตถุดิบ และอุปกรณ์ต่างๆภายในร้าน โดยสิ่งเหล่านี้สามารถเป็นตัวที่บ่งชี้ว่าจะทำให้เจ้าของธุรกิจนั้น คืนทุน ได้กำไรเร็วช้าหรืออาจถึงขั้นเจ๋งได้เลย เมื่อพูดถึงเรื่องอุปกรณ์ เครื่องครัวสำหรับการใช้งานภายในร้านอาหาร ร้านกาแฟนั้น สิ่งที่ต้องมีหลักๆคือ อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเครื่องดื่ม เนื่องจากทุกธุรกิจด้านอาหารนี้ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ควรจะต้องมีเครื่องทำน้ำแข็ง เครื่องทำกาแฟหรืออาจจะเป็นเครื่องปั่นเสมอ ดังนั้น สิ่งที่เจ้าของธุรกิจร้านอาหารควรมีแน่ๆนั่นก็คือ “เครื่องทำน้ำแข็ง” ซึ่งในยุคสมัยที่มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ผู้บริโภคก็มักจะมองหาร้านอาหาร ร้านกาแฟที่มีความสะอาด ความสะดวก ปลอดภัย เมื่อสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคตระหนักถึงแล้ว เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟก็ไม่ควรมองข้ามเลย เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วเครื่องทำน้ำแข็งยี่ห้อ ALPINE นั้นมีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างไร 1. ด้วยการผสมผสานนวัตกรรมที่ดีที่สุดจากหลายประเทศ  เนื่องจาก Alpine Water มองเห็นความสำคัญของส่วนประกอบ วัสดุภายในของเครื่องทำน้ำแข็ง ทำให้เฟรนไพร์มมีความพยายามในการประกอบเครื่องน้ำแข็งที่มีนวัตกรรมที่ดีที่สุดของแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็น - คอมเพรสเซอร์ยี่ห้อเอมบราโก (Embraco) ซึ่งเป็นผู้นำตลาดด้านคอมเพรสเซอร์ แบบปิดขนาดเล็กทด้วยหลักการใช้เทคโนโลยี่ชั้นนำ การทำงานที่ดีเยี่ยมจึงช่วยให้ประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าไฟฟ้า ทำให้เอมบราโกสามารถสร้างความแตกต่างในผลิตภัณฑ์ได้นั่นเอง - คอนแทคเตอร์ยี่ห้อ ABB จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสวิทซ์ตัดต่อวงจรไฟที่มีประสิทธิภาพสูง...

Read more...

6 เทคนิคเพิ่มกำไร ลดต้นทุนแต่คงมาตรฐานเดิม

หลายๆร้านอาหารมักจะเจอปัญหาที่ว่า ถึงแม้ยอดขายอาหารนั้นได้มาก แต่กำไรกลับน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งพบว่าปัญหาหลักๆคือ ต้นทุนที่สูงเกินไป ดังนั้น เจ้าของธุรกิจร้านอาหารจำเป็นต้องหาวิธีการที่จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไร แต่ยังคงมาตรฐานอาหาร รวมทั้งระบบภายในร้านด้วย ซึ่งวันนี้มี 6 เทคนิคที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องต้นทุนของร้านอาหาร 1. การจัดระเบียบและตรวจสอบวัตถุดิบภายในร้านอาหาร ร้านกาแฟอย่างสม่ำเสมอ ข้อนี้มีความสำคัญมาก ซึ่งการตรวจสอบวัตถุดิบภายในร้านนั้น จำเป็นอย่างมากเพื่อช่วยในการควบคุมค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนของวัตถุดิบได้อย่างมาก แต่ความเป็นจริงเจ้าของร้านก็ไม่ค่อยชอบที่จะทำ เพราะมีการตรวจสอบวัตถุดิบ จัดระเบียบสิ่งต่างๆภายในร้านนั้นเป็นเรื่องที่จุกจิก ยุ่งยากในการจัดการบริหาร แต่ในความเป็นจริง ถ้าหากเจ้าของร้านอาหารไม่มีการตรวจเช็คเรื่องนี้ จะทำให้ต้นทุนภายในร้านเพิ่มสูงมาก รวมทั้งไม่ได้จัดทำระบบเรื่องการซื้ออาหารเข้า-ออก ก็จะทำให้อาหารที่ซื้อมาก่อนอาจจะเน่าเสีย หรือหมดอายุก่อนได้ ซึ่งจะทำให้เป็นการเสียต้นทุนไปโดยเปล่าประโยชน์ ฉะนั้นเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ ควรที่จะให้ความสำคัญในเรื่องการเช็ควัตถุดิบ ซึ่งอาจจะทำเป็นระบบ Tracking number ไว้ว่าวัตถุดิบอันไหน มาก่อน-มาหลัง และยังช่วยทำให้พนักงานนั้นสามารถหยิบใช้ได้โดยไม่สับสนอีกด้วย 2. ตรวจสอบรายรับ-รายจ่ายทุกส่วนอยู่เสมอ การทำร้านอาหาร ร้านกาแฟ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอีกเรื่องนึงคือ การทำรายรับ-รายจ่าย เป็นการเช็คว่าเราควร ปรับอะไรบ้าง ต้องแก้ไขอะไรเพิ่มเติม เพื่อที่จะช่วยให้ร้านเราได้กำไรมากขึ้น และยังช่วยลดต้นทุนภายในร้านอีกด้วย โดยปกติแล้ว รายรับของร้านก็จะอาหาร กาแฟที่เราขายในร้าน แต่รายจ่ายนั้นมีด้วยกันหลายทาง ซึ่งร้านอาหารมีรายจ่ายหลักๆ 5 ประเภทของรายจ่าย 1) สาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำประปา...

Read more...

เครื่องทำน้ำแข็ง กินค่าไฟฟ้าแพงหรือไม่

* ค่า FT หน่วยละ -0.1160 บาท ในปัจจุบันเจ้าของร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือธุรกิจที่เกี่ยวกับด้านอาหารและเครื่องดื่มนั้น ให้ความสำคัญในเรื่องวัตถุดิบที่จัดเตรียมให้ลูกค้า ซึ่งนั่นก็รวมถึงน้ำแข็งที่หลายคนตระหนักถึง เนื่องจากประเทศไทยค่อนข้างที่จะชินกับธุรกิจน้ำแข็งส่งแบบกระสอบ ซึ่งเราจะเห็นเป็นรถที่มีมาตรฐานบ้าง ไม่มีมาตรฐานบ้างแล้วแต่โรงงานผลิตน้ำแข็งนั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เจ้าของธุรกิจร้านกาแฟ ร้านอาหารเป็นกังวล ในบางเคสลูกค้าอาจจะเจอเศษต่างๆ ตะกอนฝุ่นเวลาน้ำแข็งละลาย หรืออื่นๆที่อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้ เมื่อสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการเปิดธุรกิจร้านกาแฟ ร้านอาหารไม่มากก็น้อย ทำให้เจ้าของธุรกิจร้านกาแฟร้านอาหารเหล่านี้หันมามองสิ่งที่ทดแทน นั่นก็คือ “เครื่องทำน้ำแข็ง” เครื่องทำน้ำแข็ง เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับยุคสมัยนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ในปัญหาที่เจ้าของธุรกิจพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะอาด ความสะดวกและความประหยัดในต้นทุนน้ำแข็ง โดยเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟร้านอาหารนั้นจะกังวลในเรื่องค่าไฟฟ้าที่เกิดขึ้นของเครื่องทำน้ำแข็ง เพราะมันคือ “ต้นทุนน้ำแข็ง” นั่นเอง ซึ่งเรามีสูตรคำนวณค่าไฟฟ้าของเครื่องทำน้ำแข็ง ทำให้ทราบว่า เครื่องทำน้ำแข็งแต่ละรุ่น มีค่าไฟฟ้าแตกต่างอย่างไร และเจ้าของธุรกิจเหล่านี้จะสามารถประหยัดต้นทุนในเรื่องค่าน้ำแข็งได้จริงหรือเปล่า? วิธีการคำนวณ กำลังไฟฟ้า (วัตต์) ของเครื่องทำน้ำแข็ง (วัตต์) x จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้า ÷ จำนวนชั่วโมงที่ใช้ใน 1 วัน = จำนวนหน่วยต่อวัน **สูตรคำนวณค่าไฟฟ้าได้รับการรับรองจากการไฟฟ้านครหลวง**  ตัวอย่างที่ 1            ร้าน SweeterDay เป็นร้านคาเฟ่ที่มีอาหารและเครื่องดื่มขาย ซึ่งที่ร้านมีการใช้น้ำแข็งต่อวัน วันละประมาณ 5-8...

Read more...

โรคที่มาพร้อมกับน้ำแข็งที่ไม่สะอาด

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเทศไทยของเรา มีหน้าร้อนที่ยาวนานกว่าหน้าฝนและหน้าหนาว สิ่งที่ช่วยบรรเทาดับกระหายร้อนได้ ขาดไม่ได้เลยก็น้ำแข็ง โดยปกติคนไทยจะชอบบริโภคหรือดื่มน้ำเมนูเย็น แต่เพื่อเพิ่มรสชาติ อรรถรสในการดื่มก็จะต้องมีน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็งหลอด น้ำแข็งก้อน น้ำแข็งบด สารพัดประเภทน้ำแข็ง แต่รู้หรือไม่ว่า น้ำแข็งเหล่านั้นสะอาดหรือไม่ โดยทั่วไปแล้ว อากาศร้อนอบอ้าวนั้น มักจะเป็นสภาวะที่เชื้อโรคชื่นชอบและเจริญเติบโตได้ดี ในสภาพอากาศอย่างประเทศไทย  เช่น เชื้ออีโคไล, สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส,ซาลโมเนลลา เชื้อเหล่านี้สามารถปนเปื้อนได้ทั้งระหว่างผลิตน้ำแข็ง การขนส่งน้ำแข็ง ซึ่งมาตรฐานการขนส่งน้ำแข็งของธุรกิจโรงน้ำแข็งเล็กๆ หรือ SME มักมีมาตรฐานที่ค่อนข้างต่ำ โดยอาจจะเกิดได้ตั้งแต่คนงานที่ไม่มีมาตรฐานในการแต่งตัวที่เหมาะสม เครื่องจักรที่ผลิตน้ำแข็ง หรืออุปกรณ์ต่างๆ ไม่มีการทำความสะอาดที่มากพอ ก็อาจจะทำให้มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไปกับน้ำแข็งได้ โดยเฉพาะเชื้อ อี.โคไล ที่มีชื่อเต็มว่า เอสเชอริเชีย โคไล เป็นเชื้อที่พบทั่วไปในลำไส้คนและสัตว์เลือดอุ่น จึงมักตรวจพบในอุจจาระ เมื่อเราได้รับ อี.โคไล เข้าสู่ร่างกายจากอาหารและน้ำดื่มจะทำให้เกิดโรคท้องร่วง อาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียนร่วมด้วย ซึ่งระยะยาวแล้วเป็นอันตรายต่อร่างกายมากขึ้นไปอีกแน่นอน โดยสถาบันอาหารได้ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างมา ซึ่งผลวิเคราะห์พบว่ามีน้ำแข็งบด 3 ตัวอย่างที่ตรวจพบเชื้อ อี.โคไล ปนเปื้อน (ตามรูปภาพด้านบน)ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 78 (พ.ศ. 2527) กำหนดให้น้ำแข็งต้องตรวจไม่พบเชื้อ...

Read more...

5 รูปแบบโต๊ะอาหาร ที่เจ้าของร้านควรรู้

เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เจ้าของร้านอาหารควรตะหนักถึง เนื่องจากมีการจัดรูปแบบโต๊ะอาหารอยู่หลายแบบ โดยหลักๆมีอยู่ 5 รูปแบบ ซึ่งการจัดโต๊ะอาหารแต่ละแบบก็สามารถบ่งบอกลักษณะสไตล์ได้แตกต่างกัน ดังนั้นมาดูกันว่าแต่ละรูปแบบมีลักษณะอย่างไร และมีข้อแตกต่างกันอย่างไร 1.Classic Booth Classic Booth เป็นโต๊ะที่ร้านอาหารส่วนใหญ่นิยมใช้ตกแต่งภายในร้าน ซึ่งเป็นโต๊ะโซฟานุ่มๆ เป็นที่นั่งที่ให้ความสะดวกสบายกับลูกค้า รู้สึกให้ความเป็นส่วนตัวกับลูกค้าและยิ่งไปกว่านั้นร้านอาหารสามารถบริหารจัดการง่าย เป็นระเบียบมากกว่ารูปแบบอื่น เพราะโต๊ะอาหารรูปแบบนี้ติดอยู่กับที่ ในข้อดีของรูปแบบนี้ก็คือสะดวกสบายในการเสิร์ฟ และการเดินผ่านภายในร้านง่ายอีกด้วย แต่ก็ยังมีข้อเสียที่เป็นปัญหา นั่นก็คือ ราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น ถ้าหากเจ้าของร้านมีเงินทุนจำกัด อาจจะเลือกการจัดโต๊ะเป็นรูปแบบอื่นแทน 2.Picnic-Style Banquet Table โต๊ะอาหารรูปแบบนี้ จะมีลักษณะคล้ายกับโต๊ะโรงอาหารในโรงเรียน ร้านอาหารหลายๆร้านก็นิยมที่จะรูปแบบโต๊ะอาหารแนวนี้ เนื่องจากให้บรรยากาศที่เป็นกันเอง การตั้งโต๊ะอาหารเป็นแถวยาวๆต่อกันจะทำให้เพื่อนๆหรือผู้คนที่มาพบปะสังสรรค์กันสามารถที่จะได้พูดคุยกันและใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยจุดเด่นของการจัดโต๊ะรูปแบบนี้ก็คือ สามารถรองรับจำนวนคนได้มาก เหมาะอย่างยิ่งกับงานเลี้ยงสังสรรค์ ไม่ว่าจะเป็น งานเลี้ยงวันเกิด งานปาร์ตี้กับเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น ซึ่งการจัดโต๊ะอาหารแนวนี้เหมาะสำหรับร้านอาหารที่มีพื้นที่ค่อนข้างมากและมีบริเวณภายในร้านที่ค่อนข้างโล่งกว้างอีกด้วย 3.High Top Tables & Stools โต๊ะสูง เก้าอี้สูง ข้อดีของโต๊ะรูปแบบนี้คือเคลื่อนย้ายสะดวก ปรับเปลี่ยนได้ตามจำนวนของลูกค้าได้ หากลูกค้ามามากก็สามารถเลื่อนโต๊ะมาติดกันได้ และยกเก้าอี้มาเสริม หรือถ้าลูกค้ามาน้อยก็โยกเก้าอี้ไปวางที่โต๊ะอื่น การจัดรูปแบบโต๊ะทรงสูงและเก้าอี้สูง ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะตกแต่งที่ค่อนข้างง่าย โต๊ะเก้าอี้นั้นก็สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย และสามารถเปลี่ยนจำนวนโต๊ะเก้าอี้ได้จำนวนของลูกค้าได้ สิ่งเหล่านี้เป็นข้อดีของรูปการจัดโต๊ะแบบนี้ ซึ่งเหมาะสำหรับการจัดงานปาร์ตี้...

Read more...

8 สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อม ก่อนเปิดร้านกาแฟ

1. อุปกรณ์และเครื่องชงกาแฟ แน่นอนว่าอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในการเปิดร้านกาแฟก็คือ เครื่องชงกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องชงแบบเอสเปรซโซ หรือเครื่องดริปกาแฟ ซึ่งจำเป็นมากต่อการขาย ซึ่งโดยทั่วไปเครื่องชงกาแฟจะต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น เครื่องชงกาแฟ จะต้องเลือกให้ตรงกับการชงกาแฟนั้นๆ เพื่อทำให้กาแฟมีรสชาติและกลิ่นที่ดี นอกจากนี้สำหรับร้านกาแฟที่ต้องชงกาแฟเป็นจำนวนมากต่อวัน ควรเลือกเครื่องที่มีความเสถียรในการชง แรงดันและอุณหภูมิน้ำต้องสม่ำเสมอ เพื่อมั่นใจได้ว่าสามารถรองรับการชงกาแฟหลายสิบแก้วในช่วงเวลาตอนเช้าที่อาจมีลูกค้ามาสั่งกาแฟเยอะเป็นพิเศษได้ ดังนั้นครื่องชงกาแฟขนาดใหญ่จึงมีราคาแพง 2. เครื่องทำน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ หรือร้านเครื่องดื่มไหนๆ ส่วนใหญ่ต้องมีเครื่องทำน้ำแข็ง เนื่องจากเครื่องทำน้ำแข็งมีประโยชน์ต่อร้านกาแฟหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นสะดวกในการใช้งาน พนักงานสามารถตักน้ำแข็งใช้ได้ตลอด ไม่ต้องกลัวน้ำแข็งหมดกระทันหัน เพราะคนส่งมาส่งน้ำแข็งไม่ทัน การใช้งานของเครื่องทำน้ำแข็งก็ง่าย รวมไปถึงน้ำแข็งที่ผลิตจากเครื่องทำน้ำแข็งมีความสะอาดมากกว่าน้ำแข็งจากข้างนอกอีกด้วย และอีกหนึ่งประโยชน์ที่สำคัญมากๆ นั้นก็คือ ประหยัดค่าใช้จ่ายต่อเจ้าของร้านกาแฟได้มากถึง 50% เทียบกับการใช้น้ำแข็งข้างนอก การเลือกเครื่องทำน้ำแข็งก็ต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ซึ่งเจ้าของร้านควรคำนึงในเรื่องของปริมาณการใช้งานในแต่ละวัน หรือลักษณะของน้ำแข็งส่งผลต่อรสชาติของกาแฟเช่นกัน โดยส่วนใหญ่ร้านกาแฟชื่อดัง ยกตัวอย่างเช่น สตาร์บัค ทรูคอฟฟี่ นิยมใช้น้ำแข็งทรงสี่เหลี่ยมบาง(Half Cube) เพราะน้ำแข็งรูปทรงนี้ละลายช้ากว่า และยังทำให้แบรนด์ร้านหรือเครื่องดื่มมีรูปลักษณ์ที่ดีต่อลูกค้ามากขึ้นอีกด้วย ถ้าเห็นประโยชน์อย่างนี้แล้วจะมีหรือที่จะไม่จัดเครื่องทำน้ำแข็งด้วย!! 3. ระบบจัดการร้าน (POS) ระบบจัดการร้านหรือ Point Of Sale ระบบหรือโปรแกรมที่ช่วยให้เจ้าของร้านกาแฟของคุณสามารถทำงานในร้านได้อย่างราบรื่น เนื่องจากภายในระบบ POS สามารถบันทึกข้อมูลภายในร้าน ทั้งนับสต็อคสินค้า การจัดการวัตถุดิบ...

Read more...

6 เคล็ดลับ การเปิดร้านอาหาร ให้ “รอด” และ “รวย”

สำหรับหลายๆคน การเปิดร้านอาหาร อาจจะดูเป็นเรื่องง่ายๆที่ใครๆก็ทำได้ มีเงินทุนก็เปิดได้ แต่การจะเปิดให้อยู่รอดได้นั้นยากมาก ดังนั้นมาแชร์ 6 เคล็ดลับที่จะช่วยการเปิดร้านอาหารให้ “รอด” และ “รวย” ให้กับมือใหม่ที่อยากมีอาชีพเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร "การเปิดร้านอาหาร นั้นง่าย แต่ให้อยู่รอดนั้นยาก" คำกล่าวที่ใครหลายๆคนพูดไว้ ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจสำหรับคนที่พอมีเงินลงทุน มักจะเลือกลงทุน เพราะคิดว่าเป็นธุรกิจที่ไม่ยุ่งยาก อย่างไรก็ตามกลับพบว่า ร้านอาหารที่เปิดขึ้นมากมายในแต่ละปีนั้น ปิดตัวลงไปหลายร้าน สาเหตุอาจมาจาก รายได้ไม่เป็นไปตามที่คิด เงินทุนสำรองไม่พอ ค่าใช้จ่ายสูง ในที่สุดก็ต้องปิดกิจการลง สำหรับมือใหม่ที่อยากมีอาชีพด้วยการเปิดร้านอาหาร วันนี้เรามีเคล็ดลับการเปิดร้านอาหาร ให้รอด และ รวย  มาฝากคนที่อยากทำร้านอาหารค่ะ 1.ทำเลที่ตั้ง ปัจจัยที่มีผลกระทบมากที่สุดสำหรับการเปิดร้านอาหาร นั่นก็คือ โลเคชั่นหรือสถานที่ตั้งของร้าน โดยเจ้าของธุรกิจจะต้องศึกษา สำรวจพื้นที่และสังเกตว่าบริเวณสถานที่จะตั้งนั้น มีกลุ่มลูกค้าที่ธุรกิจร้านอาหารของคุณต้องการมากน้อยแค่ไหน เช่น นักเรียน นักศึกษา พนักงานบริษัท พนักงานโรงงาน หรือเป็นพ่อบ้านแม่บ้าน เพราะการมีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างออกไป จะทำให้สินค้า เมนูและราคาที่เราจะขาย จะต้องสอดคล้องกับกลุ่มลูกค้านั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากกลุ่มลูกค้า เป็นพนักงานบริษัท เมนูและราคาที่จะสามารถขายได้ ก็จะอยู่ในระดับดีปานกลางถึงดีเยี่ยม เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้มีการกำลังในการจ่ายเงินค่อนข้างดี แต่ในขณะเดียวกัน...

Read more...

8 เหตุผลที่ร้านอาหาร ต้องรู้เรื่อง SOP

เริ่มต้นก่อนเนื่องจากหลายๆคนอาจจะสงสัยว่า SOP คืออะไร???? SOP คือ Standard Operation Procedure ซึ่งก็คือการกำหนดมาตรฐานในการทำงาน ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องร้านอาหารก็คือกำหนดมาตรฐานอาหารเพื่อให้มีรสชาติที่คงที่ และการทำงานในร้านอาหารอีกด้วย เมื่อทราบแล้วว่า SOP คืออะไร ก็มาดูกันว่า 8 เหตุผลที่ร้านอาหารทำไมต้องรู้เรื่อง SOP มีอะไรกันบ้าง 1. ช่วยในการควบคุมต้นทุนอาหาร การทำ SOP ของร้านอาหารจริงๆแล้วคือการกำหนดมาตรฐานในการทำงานตลอดขั้นตอนในร้านอาหาร ซึ่งเริ่มตั้งแต่ การจัดเตรียมวัตถุดิบ ขั้นตอนการปรุง ปริมาณเครื่องปรุง อุปกรณ์ที่ใช้ ยกตัวอย่างเช่น การเลือกซื้ออุปกรณ์ ตั้งแต่การกำหนดเลือกซื้อสเปคเครื่องทำน้ำแข็งให้เหมาะและเพียงพอต่อการใช้น้ำแข็งต่อวัน ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยประหยัดต้นทุนภายในร้านได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการเสิร์ฟ การทำความสะอาด การจัดเก็บ รวมทั้งการทำงานของพนักงาน เพื่อช่วยในการลดต้นทุนของอาหารและค่าใช้จ่ายภายในร้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ร้านได้กำไรและทำให้ลูกค้าเพิ่มขึ้น 2. ช่วยแก้ปัญหาพนักงานลาออก กระทบต่องานบริการหน้าร้าน ปัญหาหลักของร้านอาหาร คือการลาออกของพนักงาน ซึ่งส่งผลกระทบกับร้านอย่างมาก ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและยังเสียเวลาในการหาพนักงานใหม่เข้ามาเพิ่มอยู่เรื่อยๆ ซึ่งหากทางร้านมีการทำ SOP ทำคู่มือพนักงานเพื่อให้พนักงานได้รู้เกี่ยวกับขั้นตอนการทำงาน กฏระเบียบการปฎิบัติภายในร้าน สิ่งที่พนักงานต้องรู้ การมีคู่มือเหล่านี้จะช่วยลดเวลาในการทำงานและยังทำให้การบริหารร้านดีและต่อเนื่องอีกด้วย 3. ช่วยให้เจ้าของร้านอาหาร เหนื่อยน้อยลง เมื่อมีระบบ SOP ทำให้การทำงานภายในร้านไม่ว่าจะเป็นบุคลากรหรือการจัดเตรียมต่างๆมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเจ้าของร้านเหนื่อยน้อยลง เนื่องจากลดปัญหาจุกจิกในร้านได้ดี โดยเจ้าของร้านอาหารไม่จำเป็นต้องลงมือแก้ไขเองทุกปัญหาหากใช้ระบบ...

Read more...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า