6 เทคนิคเพิ่มกำไร ลดต้นทุนแต่คงมาตรฐานเดิม

6 เทคนิคเพิ่มกำไร ลดต้นทุนแต่คงมาตรฐานเดิม

6 เทคนิคเพิ่มกำไร ลดต้นทุนแต่คงมาตรฐานเดิม

หลายๆร้านอาหารมักจะเจอปัญหาที่ว่า ถึงแม้ยอดขายอาหารนั้นได้มาก แต่กำไรกลับน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งพบว่าปัญหาหลักๆคือ ต้นทุนที่สูงเกินไป ดังนั้น เจ้าของธุรกิจร้านอาหารจำเป็นต้องหาวิธีการที่จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไร แต่ยังคงมาตรฐานอาหาร รวมทั้งระบบภายในร้านด้วย ซึ่งวันนี้มี 6 เทคนิคที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องต้นทุนของร้านอาหาร

1. การจัดระเบียบและตรวจสอบวัตถุดิบภายในร้านอาหาร ร้านกาแฟอย่างสม่ำเสมอ

ข้อนี้มีความสำคัญมาก ซึ่งการตรวจสอบวัตถุดิบภายในร้านนั้น จำเป็นอย่างมากเพื่อช่วยในการควบคุมค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนของวัตถุดิบได้อย่างมาก แต่ความเป็นจริงเจ้าของร้านก็ไม่ค่อยชอบที่จะทำ เพราะมีการตรวจสอบวัตถุดิบ จัดระเบียบสิ่งต่างๆภายในร้านนั้นเป็นเรื่องที่จุกจิก ยุ่งยากในการจัดการบริหาร
แต่ในความเป็นจริง ถ้าหากเจ้าของร้านอาหารไม่มีการตรวจเช็คเรื่องนี้ จะทำให้ต้นทุนภายในร้านเพิ่มสูงมาก รวมทั้งไม่ได้จัดทำระบบเรื่องการซื้ออาหารเข้า-ออก ก็จะทำให้อาหารที่ซื้อมาก่อนอาจจะเน่าเสีย หรือหมดอายุก่อนได้ ซึ่งจะทำให้เป็นการเสียต้นทุนไปโดยเปล่าประโยชน์ ฉะนั้นเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ ควรที่จะให้ความสำคัญในเรื่องการเช็ควัตถุดิบ ซึ่งอาจจะทำเป็นระบบ Tracking number ไว้ว่าวัตถุดิบอันไหน มาก่อน-มาหลัง และยังช่วยทำให้พนักงานนั้นสามารถหยิบใช้ได้โดยไม่สับสนอีกด้วย

2. ตรวจสอบรายรับ-รายจ่ายทุกส่วนอยู่เสมอ

การทำร้านอาหาร ร้านกาแฟ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอีกเรื่องนึงคือ การทำรายรับ-รายจ่าย เป็นการเช็คว่าเราควร
ปรับอะไรบ้าง ต้องแก้ไขอะไรเพิ่มเติม เพื่อที่จะช่วยให้ร้านเราได้กำไรมากขึ้น และยังช่วยลดต้นทุนภายในร้านอีกด้วย โดยปกติแล้ว รายรับของร้านก็จะอาหาร กาแฟที่เราขายในร้าน แต่รายจ่ายนั้นมีด้วยกันหลายทาง ซึ่งร้านอาหารมีรายจ่ายหลักๆ 5 ประเภทของรายจ่าย

1) สาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์

2) ค่าโฆษณาร้าน เช่น ค่ายิงแอดเพจในเฟซบุ๊คและในสื่อต่างๆ ป้ายโฆษณา

3) ค่าเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ระบบ POS ที่ใช้ภายในร้าน เครื่องพิมพ์สลิปใบเสร็จ ถาดวางเงิน
หรือกล้องวงจรปิด เป็นต้น

4) ค่าธรรมเนียมกรณีลูกค้าใช้บัตรเครดิต ซึ่งการจ่ายเงินโดยใช้บัตรเครดิตของลูกค้านั้น เจ้าของร้านอาหาร ร้านกาแฟ จะไม่ได้เงินสดทันที แต่จะได้รับเงินอีกทีประมาณ 1 สัปดาห์ ดังนั้นเจ้าของร้านอาหาร จะเก็บค่าธรรมเนียมกับลูกค้า 2-3 % ในกรณีนี้เจ้าของร้านต้องเตรียมตัวในการวางแผนเงินหมุนเวียนภายในร้านให้ดี

5) ค่าผ่อนอุปกรณ์ภายในร้านอาหาร ร้านกาแฟ โดยเจ้าของร้านอาหารบางร้าน ตัดสินใจที่จะซื้ออุปกรณ์เครื่องครัว อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆที่จะช่วยเอื้ออำนวยต่อธุรกิจได้ ยกตัวอย่างเช่น ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังเจ้าใหญ่ในตลาด มีความต้องการใช้เครื่องทำน้ำแข็งเพื่อความสะดวกต่อพนักงานร้านและต่อลูกค้าด้วย ร้านไม่ต้องการให้น้ำแข็งข้างนอกมาส่งเนื่องจากช่วยให้ภายในร้านดูเป็นระเบียบ ไม่สกปรกเนื่องจากการส่งน้ำแข็งกระสอบเข้าร้านมีความยุ่งยากกว่าและยังน่ากังวลในเรื่องของความสะอาด ทำให้เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวจึงหันมาใช้เครื่องทำน้ำแข็งโดยเขาเช่าเครื่อง ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเช่าเครื่องประจำทุกเดือน

3. ทำให้พนักงานประจำ ให้อยู่นานๆ (พยายามไม่ให้พนักงานลาออกบ่อย)

การที่พนักงานลาออกจากงานบ่อยนั้น ทำให้เสียต้นทุนอย่างไร ซึ่งถ้าดูเผินๆอาจจะไม่ได้คิดว่าเป็นการเสียต้นทุนเยอะแต่อย่างใด แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น การที่พนักงานลาออกบ่อยนั้นมีข้อเสียหลายอย่าง เช่น การเทรนนิ่งพนักงานใหม่ ค่าชุดยูนิฟอร์ม ค่าประกันความเสียหายเนื่องจากการทำงานผิดพลาดของพนักงาน รวมทั้งค่าเสียเวลาโอกาสต่างๆ ดังนั้น หากจะต้องพิจารณาเลือกพนักงานเข้ามาทำงาน ควรที่จะเลือกพนักงานที่มีความสามารถ ประสิทธิภาพที่ดีและในส่วนของเจ้าของร้านอาหาร ร้านกาแฟนั้นก็จะต้องให้สิทธิพิเศษกับพนักงานด้วยเช่นกัน เช่น เงินเดือนที่เหมาะสม โบนัส ค่าล่วงเวลา มีรางวัลพิเศษให้ลูกน้องที่อยู่มานาน เป็นต้น

4. ควบคุมการทำงานล่วงเวลาโดยไม่มีความจำเป็น

การทำงานของพนักงานล่วงเวลานั้น ถือว่าเป็นหนึ่งในต้นทุนภายในร้านเหมือนกัน ซึ่งในบางวันร้านอาหารอาจจะปิดช้ากว่าปกติ เนื่องจากลูกค้าเข้าร้านเยอะ ซึ่งมีวิธีการจัดการเรื่องนี้อยู่ 2 วิธี คือ
– ให้เงินเดือนพนักงานที่สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ : ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้พนักงานนั้นมีกำลังใจในการทำงานมากกว่า เหมือนการเหมาจ่ายให้ลูกน้องไปแล้ว โดยวิธีนี้จะช่วยให้เจ้าของร้านอาหาร ร้านกาแฟอย่างคุณสามารถคำนวณต้นทุนได้ง่ายและชัดเจนกว่า
– เลือกพนักงานที่ทำงานล่วงเวลาแค่บางคน : ดูเลือกพนักงานที่มีความจำเป็นในการทำหน้าที่ ในช่วงเวลาที่เกินจากปกติ เช่น พนักงานแคชเชียร์ทำงานล่วงเวลาในการเคลียร์บัญชีเงินต่างๆของร้านแต่ละวัน หรือพ่อครัวที่ทำหน้าที่เก็บอุปกรณ์ต่างๆและเช็ควัตถุดิบว่าต้องซื้ออะไรเพิ่ม

5. โปรโมทสินค้าที่ทำกำไร

การทำร้านอาหารโดยปกติเข้าใจอยู่แล้วว่าก็อยากจะขายเมนูที่มีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งเจ้าของธุรกิจร้านอาหารควรนิยมโปรโมทสินค้า หรือขายสินค้าที่มีราคาอยู่ระดับกลางๆ แต่ได้กำไรที่ค่อนข้างสูง ยกตัวอย่างเช่น คนไทยนิยมบริโภคมาม่า เจ้าของร้านอาหารอาจจะทำเมนูพวก มาม่าต้มยำทะเลเดือด เป็นต้น โดยมาม่าเป็นวัตถุดิบที่ค่อนข้างต่ำและยังสามารถขายในราคาที่ได้กำไรเยอะได้อีกด้วย นอกจากนี้เมนูที่สามารถอัพกำไรได้อีก เป็นจำพวกเมนูน้ำ เช่น น้ำผลไม้ปั่น ชา กาแฟ และไวน์ ยิ่งเป็นไวน์สามารถอัพราคาให้สูงมากถึง 200% และหากเป็นร้านที่อยู่ระดับ Hi-end นั้นสามารถอัพได้ถึง 600% เลยทีเดียว

เมื่อรู้เทคนิคในการช่วยให้ร้านนั้น เพิ่มกำไร ลดต้นทุนภายในร้านได้ โดยที่มาตรฐานยังเหมือนเดิมนั้น ก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กันนะคะ รับรองว่ากำไรเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

Share this post

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า